หน้า 135-136
มุมมองแนวคิดที่แตกต่างกัน การทบทวนจะช่วยสร้างความเข้าใจใหม่ๆ (Park, 1984) นอกจากนั้น ขอบเขตที่กว้างของสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น สามารถจัดหาผู้เริ่มเรียนขั้นต้น โดยให้เริ่มจากสภาพแวดล้อมบังคับที่เหมาะสมและค่อยๆยอมรับการบังคับของเขาหรือเธอจากขั้นตอนการดำเนินการแก้ปัญหาที่ละน้อยจนกระทั่งเสร็จสิ้น (Honebein et al.,1993) นอกจากนั้น ความหลากหลายของระดับทักษะความรู้และบทบาทของการได้ยินและมองเห็น ยังถูกสร้างให้เป็นประโยชน์อย่างเหมาะสมต่อความจำเป็นที่ต่างกันของผู้ใช้ด้วย(Greeno, 1989)
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมบางชนิด อาจจะควบคุม ปัจจัยสำหรับการเรียนรู้ที่มีปะสิทธิภาพในระบบ KM อย่างที่Prusak และ Fahey(1998) ได้เคยชี้ไว้ว่า การไปถึงสภาพที่หลากหลายของการพัฒนาความรู้จะต้องมีรูปแบบของการใช้เหตุผล ซึ่งเป็นพื้นฐานในหลายๆระบบKM ดังนั้น ผู้ใช้จะถูกท้าทาย หรือแม้แต่ถูกกระตุ้นให้สร้างคำถาม สมมติฐาน หรือ ทฤษฎีด้วยตัวของพวกเขาเอง ในระยะเวลาที่หลากหลายระหว่างการสำรวจระบบ KMของพวกเขา เพื่อทำให้สะดวกต่อ ความรู้ส่วนตัวของแต่ละบุคคล ต่อสิ่งที่ได้เรียนรู้ หรือสิ่งที่ตนรู้ และรวมถึงการโฟกัสไปยังลักษณะสำคัญของภาระงาน (e.g., Hooper & Hannafin, 1991) การออกแบบสภาพแวดล้อม เพื่อก่อให้เกิดแนวคิด กลยุทธ์ และ การดำเนินการประเมินผล ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับการพัฒนาความสำเร็จ เมื่อการทำให้สะดวกขึ้น คือ การจัดหา การใช้เครื่องมือที่มีอยู่ กิจกรรม และแหล่งที่มา ( Hicken,Sullivan & Klein, 1992) คำถามหรืองานเหล่านี้จะเผยแพร่อย่างเป็นระบบภายใน ระบบ KM สำหรับผู้ใช้ เพื่อให้สำเร็จ (Honebein et al., 1993) เพราะมันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ใช้ที่จะไม่สามารถทราบถึงความจำเป็นของมัน และไม่สนใจกลยุทธ์ที่แนะนำหรือคำถาม และเชื่อว่า ความท้าทายไม่จำเป็นหรือเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้า (Hay & Barab,2001) โครงสร้างการควบคุมดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ สามารถบูรณาการแนวความคิดและทักษะระหว่างระดับความรู้ที่อยู่ติดกัน (Jonassen & Reeves, 1996)
การสนับสนุนออนไลน์
ในขอบเขตโครงสร้างที่ไม่ดีมักจะเรียกร้องขอข้อมูลมากกว่าที่มีอยู่ เพื่อทำความเข้าใจในสถานการณ์ หรือปัญหาขั้นต้น (land& Greene, 2000) ดังนั้น แม้ว่าเป้าหมายของคนๆหนึ่งจะเป็นการช่วยผู้ใช้ให้เป็นผู้เรียนที่พึ่งตนเอง และเป็นนักแก้ไขปัญหา ในขอบเขตที่จำกัด ยิ่งแนวทางและขอบเขตที่สืบเนื่องจากข้อมูล สามารถกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในโปรแกรมการเรียน/ฝึกสอน (Minstrell, 1989)โดยทั่วไปแล้ว มีพื้นฐานอยู่ 3 ประเภท สิ่งที่เป็นประโยชน์ในการสนับสนุนเวลาในการสอน และเวลาในการจัดสร้างการเกริ่นนำ การบอกใบ้ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ผ่านปัญหาได้ในยามจำเป็น ในทางตรงกันข้าม เป็นการเตรียมคำใบ้ เพื่อความสะดวกในการแลกเปลี่ยนสิ่งซึ่งผู้ใช้ รู้อยู่แล้วถึงภาระงานที่มีอยู่ ช่วยให้พวกเขาบรรลุผลงานที่เป็นไปไม่ได้(Harley. 1993) การฝึกคือการทำให้แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม สามารถใช้ได้กับผู้ใช้ตามที่พวกเขาค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะ (Hoffman & rtchie, 1997) การฝึกสอนยังรวมถึงการชี้แนวทางตามความสนใจของผู้เรียน ระมัดระวังขั้นตอนที่ผิดพลาด รวมทั้งการให้คำแนะนำและการติชม ,ท้าทาย และสร้างหนทางในการลงมือทำสิ่งต่างๆ จัดหาภาระงานเพิ่มเติม ปัญหา และ สถานการณ์ที่ยากจะแก้ไข (Choi & Hannafin, 1995) ทั้งนี้ แนะแนวและแนะนำ เป็นการทำให้ไร้ข้อกังขา มากกว่าทำให้ชัดเจน และเป็น non directive มากกว่า directive(คำสั่ง) เพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเกิดความต้องการจากผู้ใช้ (Choi & Hannafin, 1995) ในการเรียน KM เทคโนโลยีถูกใช้ในการสร้างสนับสนุนผู้ใช้เหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น ในTobin & Dawson (1992) ผู้เรียนจะถูกจัดสรรเมนูแอคเซส เพื่อให้สามารถตอบคำถามได้ อธิบายเกี่ยวกับทรัยากรที่มีอยู่ และฟังก์ชั่นของมัน และแนะนำขั้นตอนการดำเนินการลึกลงไปสำหรับแต่ละภาระงานที่จะต้องทำให้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับ ผู้เรียนเริ่มต้น โปรแกรม outline the goal ซึ่งหมายถึง ทำไมมันถึงมีความสำคัญ ผลงานที่พวกเขาคาดว่ามันจะสำเร็จ ขึ้นอยู่กับว่า พวกเขาเริ่มการ สืบสวนอย่างไร การฝึกฝนการเกริ่นนำที่ดี ที่สำคัญกว่าคือ มีความรู้ที่จำเป็น และการเข้าถึงที่เป็นไปได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า อิสระของการสำรวจไม่ถูกทำให้กร่อน (Scardamalia, 1989) ยิ่งไปกว่านั้น การเรียนที่กระตุ้นให้ผู้เรียนหาวิธีแก้ปัญหาต่างๆด้วยตนเอง ยังถูกใช้เป็น ลักษณะพิเศษ ที่เกี่ยวข้องกับความหมายของ การเชื่อมโยงต่างๆ ระหว่างความคิดที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ในLaurillard (1998) ที่ซึ่ง ฐานข้อมูลของ การเชื่อมโยงภาพและเสียงถูกบรรจุอยู่ วีดีโอ และรูปภาพของ โบราณวัตถุ ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการสำรวจของผู้เรียน นอกจากนี้ฐานข้อมูลของข้อมูลเชิงลึก, ปัญหาและเป้าหมายเป็นข้อมูลที่รวบรวมและให้ความสะดวกในการค้นหาข้ามโดเมนเพื่อให้การค้นหาคำสำคัญรายการสามารถนำมารวมกัน ไม่เพียงแต่จากบริบทปัจจุบันแต่ยังมาจากโดเมนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกในการถ่ายทอดความรู้ข้ามโดเมน (e.g.,Plass&Salisbury,2002; Schank&Jona,1991)
การตอบสนองระบบ / ข้อเสนอแนะนอกจากนี้ยังสามารถเป็นรูปแบบของการสนับสนุนผู้ใช้โดยการให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการกระทำของผู้ใช้และสอบถามข้อมูลรวมทั้งจัดการเครื่องมือ, การใช้ทรัพยากร, และขอคำแนะนำและโอกาสที่จะได้รับความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของผู้เรียนมีความสำคัญต่อความเข้าใจ (Dhaliwal&Benbasat,1998;Land & Hannafin, 1996).ซึ่งแตกต่างจากวิธีการแบบเดิม ข้อเสนอแนะจะเกี่ยวข้องมากกว่าการยืนยันความถูกต้องของการตอบสนอง ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมอาจตอบสนองการใช้ภาพ (พวกวีดีโอ กราฟฟิก ที่เป็นการกระทำ) วาจา (ตัวอักษร ที่เป็นพวกข้อความ) ประสาทสัมผัส - สัมผัส(การเคลื่อนไหวเลียนแบบ) หรือการรวมกันของตัวแทนที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาของตัวมันเอง กลยุทธ์ถูกเลือกใช้โดยผู้เรียน หรือการเรียนรู้บริบท Hannafin et al ., 1993)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น